ส.ค.ส. 2564

ส.ค.ส. 2564 

2563

เสีย คือ สุข

คงปฏิเสธไม่ได้กับผลที่ได้รับเกือบทุกธุรกิจกับวิกฤตโรคระบาดที่มีผลกระทบต่อภาพธุรกิจในวงกว้าง
ทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก จากธุรกิจที่ต้องการกำไร กับไม่เกิดยอดรายได้ แต่กลับมีค่าใช้จ่าย
ที่ต้องบริหาร ผลขาดทุนจึงเกิดขึ้น

แต่สิ่งที่กลับเป็นเรื่องดีคือเจ้าของกิจการ ที่เริ่มหันมาสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเลขมากขึ้น
และบุคลากรฝ่ายบัญชีเองก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น ผมถือว่าให้เป็น “นางเอก” ของเรื่องก็ว่าได้

ปีนี้เอง ผมก็ต้องยอมรับเช่นกัน ว่าต้องสูญเสียรายได้จากการให้บริการการเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ
รวมถึงการที่นั่งเป็นผู้บริหารในบริษัทที่มีธุรกิจถูกกระทบจากเรื่อง โควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น
เพราะเกือบทุกธุรกิจประสบปัญหามากน้อยต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการ
บริการ การจัดงานอีเวนต์ต่าง ๆ ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม แต่ยิ่งทำให้ผมต้องช่วยเหลือ
ในการเป็นเพื่อนคู่คิดมากขึ้น เพราะประสบการณ์เดิมที่เคยมีมากมาย อาจยังไม่เพียงพอกับ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่และไม่เคยพบมาก่อน

การนำตัวเลขทางบัญชีและการเงินมาใช้ จึงเป็นส่วนช่วยที่สำคัญต่อการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ

การควบคุมรายจ่าย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายลำดับแรกที่มีจำนวนสูงที่สุด
ของเกือบทุกบริษัท เราต้องมาช่วยคำนวณในการวางแผนเพื่อให้สอดรับกับแต่ละสถานการณ์
การจ้างออก การให้ออก การพักการจ่าย การตัดรายการจ่ายบางอย่าง ภาษี หรือเรื่องค่าเช่าพื้นที่
หรือการเช่าสินทรัพย์ที่สำคัญ บัญชีมีส่วนช่วยในการขอพักชำระหนี้ การเจรจาต่อรอง หรือแม้เรื่อง
การหยุดเช่าพื้นที่และเคลียร์เรื่องสินทรัพย์ที่ได้เคยก่อสร้างขึ้น

แค่สองเรื่องข้างต้น ทำให้เจ้าของกิจการได้กลับมาตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่สำคัญและทีผลต่อการอยู่รอด
ของกิจการมากขึ้น มองเห็นถึงค่าใช้จ่ายที่เดือนเดือนหนึ่งเรามีการจ่ายสิ่งพวกนี้ไปด้วยหรอ และกลาย
เป็นความคิดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงโมเดลทางธุรกิจเลยทีเดียว

อีกเรื่องหนึ่งที่ชัดเจน บนสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน

คือ เจ้าของกิจการหลายคนมีความกล้าในการตัดสินใจมากขึ้น ว่าจะทำ หรือไม่ทำอะไร เนื่องจาก
สถานการณ์บางชั่วขณะบีบบังคับ และจำเป็นต้องตัดสินใจ จากบางครั้งที่เหมือนจะรู้ และไม่เคย
ลงไปดูในรายละเอียด แต่ทำให้ต้องใส่ใจและวิเคราะห์ภายในเวลาที่จำกัด

เงินทุนหมุนเวียน และเงินลงทุน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำเห็นภาพยิ่งชัดขึ้น ว่าการสูญเสียครั้งนี้
มีผลอย่างมากหากเราบริหารจัดการเงินไม่ดี ไม่มีการประมาณการ ไม่มีเงินสำรอง อาศัยเงินหมุน
เงินรับล่วงหน้าที่ได้มาก่อนไม่ได้บริหารอย่างดี หรือเงินเหลือแต่ไม่ลงทุนให้เกิดประโยชน์ เรื่องพวกนี้
ไม่ต้องจำเป็นรายใหญ่ที่ต้องทำ แม้แต่รายเล็กก็ต้องเริ่มให้ความตระหนักในการจัดทำและติดตาม
อย่างต่อเนื่อง เอาจริง ๆ เงินก็เหมือนเลือดที่ต้องใช้หมุนเวียนและสูบเฉียดร่างกาย โดยเฉพาะ
ภาคธุรกิจจำเป็นอย่างมาก แต่อย่าลืมบางครั้งเลือดก็ไม่ได้รับบริจาคมาได้อย่างง่าย ๆ นะ

แม้ว่าปีนี้จะมีการสูญเสียที่มากมายจากผลกระทบต่าง ๆ ผมกลับมีความสุขที่ได้ให้ประโยชน์
และช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่ทำได้ จากองค์ความรู้ด้านบัญชีและประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษา
และผมก็ยิ่งได้เห็นคนเก่งเพิ่มมากขึ้น นั่นคือ เจ้าของกิจการทุกคนที่สามารถปรับตัว เปลี่ยนแปลง
และเป็นผู้มีพลังทั้งกายและใจ ที่ฟันผ่าพร้อมเป็นผู้นำในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ แม้ว่าเขาหล่านี้
อาจจะมีน้ำตาจากความท้อหรือความเหนื่อยล้า แต่ก็ซ่อนไว้เพื่อให้เกิดน้ำตาแห่งชัยชนะในอนาคต

“การสูญเสีย” บางครั้ง คือ “ความสุข”

2564

สู้ ครับ สู้

ปีหน้านี้

ผมอยากให้ยึด สองเรื่อง

1. ความพอเพียงเพื่อความยั่งยืน โมเดลธุรกิจที่หวือหวา มุ่งเน้นแต่รายได้ ใช้จ่ายเงินโดยไม่ได้ควบคุม
อาจต้องกลับมาพิจารณาและดูการเติบโตที่มั่งคง และยั่งยืนแทน โดยพิจารณาย้อนกลับจากจำนวนคน
ค่าใช้จ่าย และทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อจะก่อให้เกิดรายได้นั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับรายได้ที่คาดหวัง
และผลตอบแทนในรูปแบบกำไรหรือไม่

2. การประมาณตนเพื่อสอดรับกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ตั้งจุดที่คุณสามารถยอมรับความเสี่ยง
ที่จะเกิดขึ้นได้ ทำแบบจำลองสถานการณ์ในมุมเลวร้าย และมุมดีควบคู่กันไป ติดตามสถานการณ์
และใช้ตัวเลข ข้อมูลทางบัญชีเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
 

สุดท้าย อยากส่งความสุข (ส.ค.ส.) ให้กับทุกคนที่ได้อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้

อยากให้ทุกคนได้พบกับความสุขที่แท้จริง

ไม่เปรียบเทียบความสุขของแต่ละคน

เพราะไม่มีอะไรที่เท่ากัน เพียงขอให้คุณ “มีความสุขอย่างแท้จริง”

และขออวยพรให้ปี 2564 เป็นอีกหนึ่งปี ที่คุณมีพลังทั้งความคิด กำลังกาย
และกำลังใจ ในการสร้างธุรกิจให้เกิดความมั่งคงและยั่งยืนต่อไป